บัญชีสำหรับธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้า สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้

ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก (Import-Export Business) เป็นหนึ่งในรูปแบบการค้าระหว่างประเทศที่มีความซับซ้อนทั้งในด้านเอกสาร ภาษี และระบบบัญชีที่ต้องแม่นยำ หากเจ้าของธุรกิจไม่มีระบบบัญชีที่ดีหรือไม่มีความเข้าใจเพียงพอ อาจเกิดความผิดพลาดทางการเงินหรือตามมาด้วยปัญหากฎหมายที่ไม่คาดคิด
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจว่าบัญชีสำหรับธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้า ควรเป็นอย่างไร? มีอะไรที่ต้องระวัง และควรจัดการอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมายและมีประสิทธิภาพสูงสุด
หัวข้อ

ทำไม “บัญชี” สำคัญกับธุรกิจนำเข้า-ส่งออก
- ควบคุมต้นทุนได้อย่างแม่นยำ เช่น ค่าขนส่ง ค่าภาษีศุลกากร ค่าธรรมเนียมต่างประเทศ ฯลฯ
- ตรวจสอบความคุ้มค่าของแต่ละดีลการค้า ช่วยวิเคราะห์กำไรขาดทุนได้อย่างละเอียด
- ใช้ในการยื่นภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ
- เป็นเอกสารประกอบการขอสินเชื่อหรือยื่นประมูลกับบริษัทหรือหน่วยงานราชการ
- เตรียมความพร้อมหากถูกตรวจสอบโดยกรมสรรพากรหรือกรมศุลกากร
รายการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนำเข้า–ส่งออก (Import–Export Accounting)
1. ต้นทุนสินค้านำเข้า (CIF Cost)
CIF (Cost, Insurance, and Freight) คือราคาสินค้าที่รวมค่าใช้จ่ายหลัก 3 ส่วน ได้แก่
- ราคาสินค้า (Cost ) : มูลค่าที่ผู้ขายต่างประเทศเรียกเก็บ
- ค่าขนส่ง (Freight) : ค่าเรือ/ขนส่งระหว่างประเทศ
- ค่าประกันภัย (Insurance) : ค่าประกันความเสียหายระหว่างขนส่ง
บัญชีที่เกี่ยวข้อง : ต้องลงบัญชีต้นทุนอย่างครบถ้วน โดยกระจายเข้าบัญชีสินค้าคงเหลือหรือต้นทุนขาย ตามนโยบายบัญชี เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และไม่ผิดเพี้ยนจากงบการเงิน
2. ภาษีนำเข้า (Import Duty) และ VAT
- Import Duty : ภาษีศุลกากรที่ชำระต่อกรมศุลกากร
- VAT : โดยทั่วไปเป็น VAT ที่ชำระ 7% ของมูลค่าสินค้า + ภาษีนำเข้า + ค่าขนส่ง ฯลฯ
คำแนะนำ
- สำหรับ VAT สามารถนำไปเครดิตภาษีซื้อได้ หากกิจการจดทะเบียน VAT ถูกต้อง
- แยกบัญชี “ภาษีนำเข้า” และ “ภาษีซื้อ (VAT)” อย่างชัดเจน
- เก็บใบเสร็จรับเงินศุลกากร (ใบขนฯ) ใบกำกับภาษี และเอกสารประกอบอย่างเป็นระบบ
3. ค่าใช้จ่ายระหว่างนำเข้า-ส่งออก
ได้แก่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้า/ส่งออก เช่น
- ค่าพิธีการศุลกากร
- ค่าธรรมเนียมท่าเรือ
- ค่าชิปปิ้ง (Freight Forwarder)
- ค่าดำเนินการเอกสาร/ใบอนุญาต
บัญชีที่ใช้ : สามารถบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารหรือรวมเป็นต้นทุนสินค้านำเข้า ขึ้นอยู่กับนโยบายบัญชีของกิจการ (ต้องแนบใบแจ้งหนี้/ใบเสร็จของแต่ละรายการเพื่อการตรวจสอบภายหลัง)
4. รายได้จากการส่งออก
- รายได้จากการขายสินค้าส่งออกควรระบุสกุลเงินต่างประเทศที่ได้รับอย่างชัดเจน (เช่น USD, EUR)
- ต้องมีการแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท (THB) เพื่อบันทึกในบัญชี
อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ : อาจใช้ค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ ณ วันที่รับรู้รายได้ หรืออัตราของธนาคารแห่งประเทศไทย (ตามนโยบายบัญชีของกิจการ)
เอกสารประกอบ : ใบกำกับภาษี (สำหรับ Zero VAT), ใบขนสินค้าขาออก, ใบแจ้งหนี้ และ Statement ธนาคาร
5. กำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
- เมื่อลูกค้าชำระเงินหรือกิจการชำระค่าสินค้าด้วยสกุลเงินต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่รับรู้รายได้/ค่าใช้จ่าย กับวันที่รับ/จ่ายเงินจริงอาจแตกต่างกัน
- ส่วนต่างดังกล่าวถือเป็นกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
บัญชีที่เกี่ยวข้อง
- “กำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน”
- จำเป็นต้องแยกแสดงในงบกำไรขาดทุน
- มีผลต่อกำไรสุทธิของกิจการโดยตรง โดยเฉพาะกรณีที่ทำธุรกรรมต่างประเทศจำนวนมาก

ความท้าทายในการทำบัญชีสำหรับธุรกิจนำเข้า-ส่งออก
- เอกสารจำนวนมาก เช่น ใบขนสินค้า, Invoice, Bill of Lading ฯลฯ
- ต้องเข้าใจทั้งกฎหมายไทยและกฎเกณฑ์ของประเทศคู่ค้า
- อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ทำให้การคำนวณต้นทุนไม่ตายตัว
- หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญบัญชี อาจทำให้ผิดพลาดเรื่องภาษีและเอกสารการเงินได้ง่าย
ทำบัญชีกับผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้ธุรกิจมั่นคง
การเลือกสำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญด้านนำเข้า-ส่งออก จะช่วยให้ธุรกิจคุณ
- วางระบบบัญชีที่เหมาะกับรูปแบบธุรกิจ
- จัดการภาษีได้ถูกต้อง ลดความเสี่ยงถูกปรับ
- ประหยัดเวลาในการทำเอกสารและยื่นงบการเงิน
- ได้รับคำปรึกษาด้านบัญชีและภาษีที่ตรงจุด
- สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริการที่แนะนำสำหรับธุรกิจนำเข้า-ส่งออก
- รับทำบัญชีรายเดือนและรายปี
- วางระบบบัญชีสำหรับบริษัทนำเข้า-ส่งออก
- ปรึกษาภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีนำเข้า
- วิเคราะห์ต้นทุนสินค้านำเข้าแบบเจาะลึก
- บริการตรวจสอบบัญชีตามมาตรฐานสากล

สรุป
บัญชีในธุรกิจนำเข้า-ส่งออกเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม การวางระบบให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น ช่วยป้องกันความผิดพลาด ลดภาระภาษี และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ หากคุณกำลังเริ่มต้นหรือต้องการปรับปรุงระบบบัญชีให้มีประสิทธิภาพ อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีที่เข้าใจธุรกิจระหว่างประเทศอย่างแท้จริง
สำนักงานบัญชี สอบถามทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี ติดต่อเรา
- สถานที่ : 1239/144 หมู่บ้าน เดอะ มิราเคิล ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160
- เบอร์โทร : 082-441-6529
- Email : pm.audit.acc@gmail.com
- LINE : @pmac
- เว็บไซต์ : pmaccounting.net







