ไขข้อสงสัย! พื้นฐานการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

Table of Contents

บทความนี้เหมาะกับใคร ??

  1. ผู้ที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน
  2. ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน
  3. ผู้ที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องเสียภาษีหรือไม่

 

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คืออะไร ??

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีที่บุคคลธรรมดา ต้องเสียให้กับรัฐบาลไทย ตามรายได้ที่ได้รับในแต่ละปี โดยต้องยื่นภาษีภายในมกราคม-มีนาคมของปีถัดไป โดยรายได้ของบุคคลธรรมดาเป็นแบบประเมินตนเอง โดยใช้เกณฑ์เงินสด คือดูว่ารายได้ที่ได้รับเป็นเงินสดในปีภาษีเป็นเท่าไหร่

ใครต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ??

  1. มีเงินได้เงินเดือนประเภทเดียว เกิน 120,000 บาท (ยื่นแบบ ภ.ง.ด.91)
  2. มีเงินได้ประเภทอื่นนอกจากเงินเดือน เกิน 60,000 บาท (ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 / ภ.ง.ด.94)

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถคำนวณได้จากสมการ ดังนี้

ภาษีที่ต้องจ่าย = อัตราภาษีในแต่ละขั้น x เงินได้สุทธิ

เงินได้สุทธิ = เงินได้ทั้งปี – ค่าใช่จ่ายตามประเภทเงินได้ – ค่าลดหย่อน

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2567

รายได้สุทธิ (บาท)อัตราภาษี
ไม่เกิน 150,000 บาทไม่ต้องเสียภาษี
ตั้งแต่ 150,001 บาท – 300,000 บาท5%
ตั้งแต่ 300,001 บาท – 500,000 บาท10%
ตั้งแต่ 500,001 บาท – 750,000 บาท15%
ตั้งแต่ 750,001 บาท – 1,000,000 บาท20%
ตั้งแต่ 1,000,001 บาท – 2,000,000 บาท25%
ตั้งแต่ 2,000,001 บาท – 5,000,000 บาท30%
ตั้งแต่ 5,000,001 บาทขึ้นไป35%

ค่าใช้จ่ายของประเภทตามประเภทของเงินได้สามารถเลือกทำค่าใช้จ่ายแบบเหมาหรือตามจริงก็ได้ โดยเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 สามารถมีรายละเอียดดังนี้

รายละเอียดเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40การหักค่าใช้จ่าย
ประเภทรายละเอียดแบบเหมาตามจริง
40 (1)เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน เช่น เงินดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส ค่าเช่าบ้านคิดค่าใช้จ่ายรวมกันได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
40 (2)เงินได้จากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้ เช่น ค่านายหน้า ค่าธรรมเนียม เบี้ยประชุม
40 (3)ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าลิขสิทธิ์ ค่าทรัพย์สินทางปัญญาหรือสิทธิอย่างอื่นหักได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาทหักตามจริงตามสมควร
40 (4)ดอกเบี้ย เงินปันผล ส่วนแบ่งกำไร
40 (5)รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน การผิดสัญญาเช่าซื้อ การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อน(ก) สิ่งปลูกสร้าง 30%

(ข) ที่ดินเพื่อการเกษตร 20%

(ค) ที่ดินที่มิได้ใช้ในการเกษตรกรรม 15%

(ง) ยานพาหนะ 30%

(จ) ทรัพย์สินอื่น 10%

หักตามจริงตามสมควร
40 (6)เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น วิชาชีพกฎหมาย การประกอบโรคศิลป(แพทย์) วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประรีตศิลปกรรม(1) การประกอบโรคศิลปะ 60%

(2) วิชาชีพอิสระอื่นนอกจากการประกอบโรคศิลปะ 30%

หักตามจริงตามสมควร
40 (7)เงินได้จากการรับเหมาก่อสร้าง ที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือหักค่าใช้จ่ายเป็ นการเหมา 60%หักตามจริงตามสมควร
40 (8)เงินได้อื่นๆนอกจาก 1-7 ได้แก่เงินได้จากธุรกิจการพาณิชย์ การเกษตร อุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้นหักค่าใช้จ่ายเป็ นการเหมาในอัตราตาม ตารางอัตราการหักค่าใช้จ่าย เป็ นการเหมาส าหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) เฉพาะกิจการ 43 ประเภท โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่หักตามจริงตามสมควร

ค่าลดหย่อนภาษีของบุคคลธรรมดามีหลายประเภท ซึ่งตามรายละเอียดด้านล่างเป็นค่าลดหย่อนที่เราใช้ในการวางแผนภาษี

  1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว:

– ผู้มีเงินได้: 60,000 บาท

– คู่สมรสที่ไม่มีเงินได้: 60,000 บาท

  1. ค่าลดหย่อนบุตร:

– บุตรคนละ 30,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนบุตร)

– บุตรที่กำลังศึกษา: เพิ่มอีก 30,000 บาทต่อคน

  1. ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ: 60,000 บาทต่อคน
  2. ค่าลดหย่อนผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป): 190,000 บาท
  3. ค่าลดหย่อนเบี้ยประกัน:

– ประกันชีวิต: ไม่เกิน 100,000 บาท

– ประกันสุขภาพ: ไม่เกิน 25,000 บาท

  1. เงินสมทบกองทุนประกันสังคม: ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 9,000 บาท
  2. ค่าลดหย่อนเงินบริจาค: ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ
  3. ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารอยู่อาศัย: ไม่เกิน 100,000 บาท
  4. เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: ไม่เกิน 10,000 บาท
  5. เงินสะสมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.): ตามที่จ่ายจริง
  6. ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): ไม่เกิน 30% ของเงินได้ และไม่เกิน 500,000 บาท
  7. ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF): ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และไม่เกิน 500,000 บาท
  8. เงินสมทบกองทุนการออมแห่งชาติ: ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 13,200 บาท
  9. ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาบุตร: ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน
  10. ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม: ตามมาตรการของรัฐในแต่ละปี

ค่าลดหย่อนบางรายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของรัฐบาลในแต่ละปีภาษี ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรก่อนการยื่นภาษีทุกปี

อัพเดทรู้ทันการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เข้าใจพื้นฐานกฎหมายอย่างถ่องแท้ เตรียมเอกสารอย่างครบถ้วน จ่ายภาษีได้อย่างถูกต้อง ลดภาระครบครัน ได้ที่นี่!

สิ่งที่ต้องรู้สำหรับผู้ที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน

การลงทะเบียน:

– ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลข 13 หลัก) จากกรมสรรพากร 

– สามารถลงทะเบียนออนไลน์หรือที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่

– ต้องเตรียมเอกสารยืนยันตัวตน โดยเฉพาะ บัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์สำหรับการรับ OTP

  1. กำหนดการยื่น:

– ยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไปสำหรับเงินได้ในปีภาษีที่ผ่านมา หากยื่นออนไลน์สามารถยื่นได้ถึงวันที่ 8 เมษายนของปีถัด

  1. แบบฟอร์ม:

– ภ.ง.ด.90: สำหรับผู้มีเงินได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง หรือเงินได้อื่นๆ

– ภ.ง.ด.91: สำหรับผู้มีเงินได้จากการประกอบธุรกิจ วิชาชีพอิสระ นำส่งภาษีสิ้นปี

– ภ.ง.ด.94: สำหรับผู้มีเงินได้จากการประกอบธุรกิจ วิชาชีพอิสระ นำส่งภาษีกลางปี

  1. เอกสารประกอบ:

– หลักฐานแสดงรายได้ เช่น ใบแจ้งรับรองการหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

– หลักฐานค่าลดหย่อน เช่น ใบเสร็จรับเงินประกันชีวิต เงินบริจาค

– หลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย

  1. วิธีการคำนวณ:

– คำนวณเงินได้สุทธิโดยนำเงินได้พึงประเมินหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน

– นำเงินได้สุทธิมาคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า

  1. ช่องทางการยื่น:

– ยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร

– ยื่นที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่

– ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียน

  1. ค่าลดหย่อนที่สามารถใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษี:

– ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนคู่สมรส บุตร

– ค่าลดหย่อนประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เงินบริจาค

– เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน RMF, SSF

  1. บทลงโทษ:

– ไม่ยื่นแบบ: ค่าปรับอาญาไม่เกิน 2,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ

– ไม่ยื่นแบบ: เบี้ยปรับภาษี 1-2 เท่าของยอดภาษีที่ต้องชำระ

– ไม่ยื่นแบบ: เสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของภาษีที่ต้องชำระ

การวางแผนภาษีเพื่อประโยชน์สูงสุด

  1. เข้าใจประเภทของรายได้

ทำความเข้าใจกับประเภทของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี เพื่อที่จะสามารถคำนวณจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายอย่างถูกต้อง

  1. บันทึกบัญชีรายรับรายจ่าย

บันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ โดยใช้โปรแกรมบัญชีหรือแอปพลิเคชันจัดการเงินเพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วนและแม่นยำ

  1. รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง

จัดเก็บเอกสารสำคัญ เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษีค่าใช้จ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษี

  1. ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้ครบถ้วน

ตรวจสอบและใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าลดหย่อนบุตร คู่สมรส และบุพการี รวมถึงค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต ดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด.

  1. วางแผนการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ

พิจารณาวางแผนการลงทุน ในรูปแบบต่างๆ ที่มีการลดหย่อนภาษี เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)

  1. ปรึกษาสำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญด้านภาษี

หากมีข้อสงสัยหรือความไม่แน่ใจ ควรปรึกษาสำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อให้ได้คำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสม

สรุปประเด็นสำคัญของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและการวางแผนภาษี ดังนี้

  1. ใครต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
    • ผู้มีเงินได้เงินเดือนเกิน 120,000 บาท/ปี
    • ผู้มีเงินได้ประเภทอื่นนอกเหนือจากเงินเดือนเกิน 60,000 บาท/ปี
  1. การคำนวณภาษี
    • เงินได้สุทธิ = เงินได้ทั้งปี – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
    • ภาษีที่ต้องจ่าย = อัตราภาษีตามเงินได้สุทธิ x เงินได้สุทธิ
  1. ค่าลดหย่อนสำคัญ
    • ค่าลดหย่อนส่วนตัว คู่สมรส บุตร ผู้พิการ ผู้สูงอายุ
    • ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เงินบริจาค
    • ค่าลดหย่อนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน RMF กองทุน LTF
  1. การวางแผนภาษี
    • เข้าใจประเภทรายได้และบันทึกบัญชีอย่างละเอียด
    • รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ อย่างครบถ้วน
    • ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้ครบถ้วน
    • วางแผนการลงทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
    • ปรึกษาสำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญด้านภาษีหากมีข้อสงสัย
  1. สำหรับผู้ที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน
    • ลงทะเบียนเลขประจำตัวผู้เสียภาษีกับกรมสรรพากร
    • เตรียมเอกสารประกอบการยื่นภาษีให้ครบถ้วน
    • ทำความเข้าใจกำหนดการ วิธียื่น และค่าปรับต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น

สำหรับผู้ที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน การเริ่มต้นอาจดูซับซ้อน แต่หากปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การจัดการภาษีก็จะง่ายขึ้น เริ่มต้นจากการลงทะเบียนเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเตรียมเอกสารประกอบการยื่นภาษีให้ครบถ้วน รวมถึงการเลือกแบบฟอร์มภาษีที่เหมาะสมกับรายได้ของคุณ

อย่าลืมใช้สิทธิลดหย่อนภาษีที่มีให้ครบถ้วนเพื่อประโยชน์สูงสุด หากคุณยังมีข้อสงสัยในการคำนวณภาษีหรือกำลังมองหาวิธีการวางแผนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ายื่นภาษีได้ถูกต้องและคุ้มค่า

ติดต่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

Facebook
Email
Print
อ่านเพิ่มเติม