ฐานภาษีของนิติบุคคล (บริษัทจำกัด / ห้างหุ้นส่วน) ในประเทศไทย

ทำความเข้าใจเรื่องฐานภาษีเพื่อการวางแผนภาษีที่มีประสิทธิภาพสำหรับเจ้าของธุรกิจ
🔍 คำจำกัดความของ “ฐานภาษี”
ฐานภาษี (Tax Base) คือ มูลค่าของรายได้หรือกำไรสุทธิที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษีที่นิติบุคคลต้องชำระให้แก่กรมสรรพากร โดยฐานภาษีของนิติบุคคลในประเทศไทยจะพิจารณาจาก กำไรสุทธิ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax)
🏢 ประเภทของนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ในบริบทของประเทศไทย นิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีจากฐานภาษี ได้แก่:
- บริษัทจำกัด (Limited Company)
- บริษัทมหาชนจำกัด (Public Company Limited)
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership)
- ห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียน (Registered Ordinary Partnership)
- นิติบุคคลต่างประเทศที่มีรายได้จากประเทศไทย
บทความนี้จะเน้นไปที่บริษัทจำกัดและห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นหลัก เนื่องจากเป็นรูปแบบธุรกิจยอดนิยมของผู้ประกอบการในไทย

💡 หลักการคำนวณฐานภาษีของนิติบุคคล
1. รายได้รวม (Total Revenue)
รายได้จากการดำเนินธุรกิจ เช่น:
- รายได้จากการขายสินค้า
- รายได้จากการให้บริการ
- รายได้จากดอกเบี้ย เงินปันผล หรือกำไรจากการลงทุน
2. หักต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง (Deductible Expenses)
ค่าใช้จ่ายที่หักได้ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่ เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบธุรกิจ เช่น:
- ต้นทุนสินค้า
- ค่าเช่า
- ค่าจ้างและเงินเดือน
- ค่าเสื่อมราคา (Depreciation)
- ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อธุรกิจ
- ค่าการตลาดหรือค่าใช้จ่ายในการขาย
3. กำไรสุทธิตามบัญชี (Accounting Profit)
คือ รายได้รวม หัก ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
✳︎ หมายเหตุ: กำไรสุทธิตามบัญชีไม่ใช่ตัวเลขสุดท้ายที่ใช้คำนวณภาษีโดยตรง
4. การปรับปรุงทางภาษี (Tax Adjustments)
ปรับปรุงรายการที่ ไม่สามารถหักได้ทางภาษี เช่น:
- รายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี
- ค่าปรับทางกฎหมาย
- รายจ่ายส่วนที่เกินเกณฑ์ที่กำหนด
5. กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี (Net Profit for Tax Purpose)
ผลลัพธ์จากการปรับปรุงภาษีเรียกว่า “ฐานภาษี” หรือ “กำไรสุทธิทางภาษี” ซึ่งใช้คูณกับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล

🧾 อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย
ประเภทธุรกิจ | รายได้ต่อปี | อัตราภาษี |
บริษัทจำกัด / ห้างหุ้นส่วนจำกัด (SMEs) | ≤ 3,000,000 บาท | ยกเว้นภาษี |
> 3,000,000 – 30,000,000 บาท | 15% ของกำไรสุทธิ | |
> 30,000,000 บาท | 20% ของกำไรสุทธิ | |
บริษัทขนาดใหญ่ (Non-SME) | ไม่จำกัดรายได้ | 20% ของกำไรสุทธิ |
หมายเหตุ: บริษัทจะถือเป็น SME ได้ต่อเมื่อมีทุนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี
🧮 ตัวอย่างการคำนวณฐานภาษี
บริษัท A จำกัด มีข้อมูลดังนี้:
- รายได้รวม: 10,000,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายที่หักได้: 7,000,000 บาท
- รายจ่ายต้องห้าม: 200,000 บาท
ขั้นตอน:
- กำไรสุทธิตามบัญชี = 10,000,000 – 7,000,000 = 3,000,000
- บวกกลับรายจ่ายต้องห้าม = 3,000,000 + 200,000 = 3,200,000
- ฐานภาษี = 3,200,000 บาท
- คำนวณภาษี (บริษัทไม่ใช่ SME) = 3,200,000 × 20% = 640,000 บาท
📌 ข้อควรระวังในการคำนวณฐานภาษี
- แยกรายจ่ายต้องห้ามออกจากค่าใช้จ่ายปกติ
- ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น การหักค่าเสื่อมราคาแบบเร่งรัด
- อย่าลืมหักภาษี ณ ที่จ่าย (ภงด 3 /53) อย่างถูกต้อง
- การนำขาดทุนสะสมมาหักลดย้อนหลังได้ไม่เกิน 5 ปี

✅ วิธีวางแผนภาษีให้ถูกต้องและประหยัด
- ใช้ ที่ปรึกษาทางภาษี หรือ สำนักงานบัญชี ที่มีประสบการณ์
- จัดทำบัญชีอย่างเป็นระบบและตรงตามหลักเกณฑ์
- ประเมินรายได้และต้นทุนล่วงหน้าเพื่อลดภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- พิจารณาใช้สิทธิ BOI หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษ หากเข้าเงื่อนไข
🔚 สรุป
ฐานภาษีของนิติบุคคล เป็นหัวใจของการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล การทำความเข้าใจองค์ประกอบของรายได้ ค่าใช้จ่าย และการปรับปรุงทางภาษี จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนภาษีได้อย่างถูกต้องและประหยัดในระยะยาว ทั้งนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและทำบัญชีอย่างรัดกุมเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ติดต่อเรา
- สถานที่ : 1239/144 หมู่บ้าน เดอะ มิราเคิล ซอยเพชรเกษม 63
- เบอร์โทร : 082-441-6529
- Email : pm.audit.acc@gmail.com
- LINE : @pmac
- เว็บไซต์ : pmaccounting.net